Month: February 2022

DMT ปลื้มผลประกอบการ Q4/2564 เติบโต 110%

‘บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง’ หรือ DMT ไฟเขียวเงินปันผล 0.32 บาท/หุ้น หรือประมาณร้อยละ 93.5 ของกำไรปี 64 ไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทางเป็นจำนวน 384.79 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ผลจากปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นเป็น 72,396 คันต่อวัน คาดปี 65 รายได้และปริมาณการจราจรโตตามทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มทยอยฟื้นตัว มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีปรับตามพฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าแผนขยายกิจการและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน 3 มิติ นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการนำหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 140 ล้านหุ้นเข้าจดทะเบียน และมีการซื้อขายเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ส่งผลให้ ณ 31 ธันวาคม 2564 ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง

Read More
PRIMO ระดมทุนรอบ Pre-Series A จาก Fuchsia VC-Beacon VC

PRIMO สตารท์อัปผู้เชี่ยวชาญด้าน Omnichannel Marketing-Platform สำหรับองค์กรและธุรกิจขนาดใหญ่ ระดมเงินลงทุนรอบ Pre-Series A จาก Fuchsia VC และ Beacon VC เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีในทุกผลิตภัณฑ์ทั้งระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า และระบบเพื่อการบริหารความสัมพันธ์คู่ค้า รวมถึงขยายธุรกิจรองรับการเติบโต ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของการทำธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ในยุคที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง นายวีร์ สิรสุนทร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโมเวิร์ล จำกัด (PRIMO) กล่าวว่า Omnichannel Marketing Platform เติบโตอย่างชัดเจนในยุคโควิด-19 ธุรกิจขนาดใหญ่เห็นความสำคัญของเครื่องมือเพื่อใช้ทำการตลาดในรูปแบบ Omnichannel มากขึ้น และยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก ด้วยองค์กรขนาดใหญ่ต่างมองหาแพลตฟอร์มที่จะนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางเพื่อนำมาประมวลผลและสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้ากลุ่มต่างๆ อย่างไร้รอยต่อ นายวีร์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ PRIMO Omnichannel Marketing Platform มีความสามารถมากขึ้น มีความยืดหยุ่นสูง และติดตั้งได้โดยใช้เวลาอันสั้น ทำให้นักการตลาดมีเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคที่เป็น Data Driven นอกจากนี้ PRIMO Omnichannel Marketing

Read More
ZIGA ทุ่มเงินอีก 100 ล้านบาท เดินหน้าขุดบิทคอยน์เพิ่ม 200 เครื่อง

ZIGA ลุยธุรกิจ Bitcoin Mining เต็มพิกัด ควักเงินอีก 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องขุดเพิ่ม 200 เครื่อง ปักหมุดไตรมาส 1/65 มีกำลังแรงขุดครบ 400 เครื่อง หนุนรายได้-กำไรพุ่ง นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ZIGA เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2565 บริษัท ซิก้า เอฟซี จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2565 มีการขออนุมัติสั่งซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 200 เครื่องเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ซึ่งได้ทำการสั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ.กับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยบริษัทฯ ได้เลือกพิจารณาการสั่งซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์กับบริษัทที่มีการรับประกันเครื่อง ณ วันส่งมอบทั้งจำนวน และบริการรับประกันการซ่อมเครื่องหลังส่งมอบเป็นหลักสำคัญ โดยเครื่องขุดบิตคอยน์จะส่งมอบ

Read More
ทองคำ COMEX ปิดลดลง 2.2 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายทำกำไร

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดในวันศุกร์ (18 ก.พ.)ลดลง 2.2 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังราคาพุ่งแตะระดับปิดสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดี แต่ยังคงปรับตัวขึ้น 3.1% ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,899.8 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ยังคงปรับตัวขึ้น 3.1% ในรอบสัปดาห์นี้ นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อทำกำไร หลังจากราคาปิดพุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 6.7% สู่ระดับ 6.50 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจจะลดลงสู่ระดับ 6.10 ล้านยูนิต ดาวโจนส์ปิดลบ 232 จุด นักลงทุนกังวลสถานการณ์ยูเครน ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันศุกร์ (18 ก.พ.)ลดลง

Read More
รับโอนเงินต่างประเทศผ่านตู้ ATM SCB ฟรีค่าธรรมเนียม ได้แล้ววันนี้!

ไทยพาณิชย์ จับมือ MoneyGram เปิดให้บริการครั้งแรก “รับเงินโอนต่างประเทศผ่าน MoneyGram ที่ตู้ ATM SCB” จำนวนกว่า 2,000 ตู้ทั่วประเทศ สูงสุด 30,000 บาทต่อรายการ ฟรีค่าธรรมเนียม ตลอด 24 ชม. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง เดินหน้าพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการเงินอย่างไม่หยุดยั้งผ่านความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลกเพื่อนำเสนอโซลูชั่นและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุด (Customer Experience) ล่าสุดจับมือ บริษัท มันนี่แกรม อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดให้บริการรับเงินโอนจากต่างประเทศผ่านระบบ MoneyGram ที่ตู้ ATM SCB นับเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำรายการรับเงินโอนจากต่างประเทศได้ด้วยตนเองง่าย ๆ เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวโดยไม่ต้องไปที่สาขา สะดวกกว่า รับโอนกดง่าย ฟรีค่าธรรมเนียม สามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถกดรับเงินสดผ่านตู้ ATM SCB ได้สูงสุด 30,000 บาท/

Read More
ธ.ก.ส. เดินหน้าแก้หนี้ครัวเรือน ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพหนี้ พร้อมวางแนวทางช่วยเหลือ

ธ.ก.ส. เร่งช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ราคาผลผลิตตกต่ำ ภัยธรรมชาติ โดยมอบนโยบายให้สาขาเข้าพบลูกค้าทุกรายเพื่อสอบถามข้อมูลการประกอบอาชีพและรายได้ พร้อมกำหนดแนวทางบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับศักยภาพของลูกค้าแต่ละราย ควบคู่การเติมสินเชื่อใหม่ในการฟื้นฟูอาชีพอย่างยั่งยืน นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน ซึ่ง ธ.ก.ส. ในฐานะธนาคารของรัฐ พร้อมช่วยเหลือลูกค้าเงินกู้ ทั้งเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาผลผลิตการเกษตรได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ราคาผลผลิตตกต่ำ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือมีรายได้ไม่สอดคล้องกับแผนการชำระหนี้เดิม เพื่อกำหนดกระบวนการการบริหารจัดการหนี้อย่างยั่งยืน เริ่มจากการมอบนโยบายให้พนักงานในพื้นที่ไปพบลูกค้าทุกราย โดยมีเป้าหมายเกษตรกรที่ใช้บริการสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. จำนวน 4.83 ล้านราย เพื่อสอบถามข้อมูลการประกอบอาชีพ ที่มาของรายได้มาประเมิน โดยวิเคราะห์ศักยภาพสมรรถนะและความสามารถในการประกอบอาชีพ ความสามารถในการชำระหนี้ จากนั้นจัดกลุ่มลูกหนี้ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด โดยแบ่งลูกค้าเป็นกลุ่มตามศักยภาพ เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูง กลุ่มศักยภาพปานกลาง กลุ่มมีเหตุผิดปกติ เป็นต้น เพื่อทำการบริหารจัดการหนี้ให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับตารางกำหนดการชำระหนี้ใหม่ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้และการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามศักยภาพของลูกหนี้ การเติมสินเชื่อใหม่เพื่อฟื้นฟูอาชีพ รวมถึงพิจารณาช่วยเหลือลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนัก เนื่องจากรายได้ครัวเรือนลดลงหรือไม่ได้มีรายได้เพียงพอเพราะเหตุผิดปกติ เช่น

Read More